แฟรงค์ แลมพาร์ด ทำประตูที่ 200 ของเขากับเชลซี ในเกมพรีเมียร์ลีก
ประตูนี้ทำให้มิดฟิลด์วัย 34 ปี ขาดอีกแค่ 2 ลูกก็จะขึ้นทำเนียบดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร เท่ากับที่ บ็อบบี้ แทมบลิง ทำไว้ 202 ประตูเมื่อกว่า 40 ปีก่อนเขายังมีโอกาสสูงที่จะทุบสถิตินี้ลง และได้รับการจารึกชื่อในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ เชลซี ในฐานะดาวยิงสูงสุดของทีมแต่เพียงผู้เดียวอีกด้วย ก่อนที่จะสิ้นสุดสัญญาลงเมื่อจบฤดูกาลนี้ที่พิเศษขึ้นไปอีกก็คือ แลมพาร์ด ทำสถิตินี้ได้ในฐานะกองกลางไม่ใช่กองหน้าและใน 138 ประตูในพรีเมียร์ลีก 26 ประตูในเอฟเอคัพ 11 ประตูในลีกคัพ และ 24 ประตูในฟุตบอลยุโรปที่เขาทำได้นั้น มีหลายประตูที่มีความสำคัญ และอีกหลายประตูก็เป็นการยิงที่เหนือชั้นและแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขา
ถ้า แลมพาร์ด พลาดจุดโทษในเกมนี้ เชลซีคงจะไม่มีโอกาสก้าวไปจนถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรปได้ เพราะคงจะถูก นาโปลี เขี่ยตกรอบไปก่อน หลังแพ้นัดแรกมา 3-1 แต่ประตูของ แลมพาร์ด ก็ช่วยให้ เชลซี ชนะ 3-1 ในนัดที่สอง ก่อนจะไปเฉือนชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ
การจบสกอร์ด้วยสัญชาตญาณเป็นหนึ่งในจุดเด่นของแลมพาร์ด และเกมนี้เขาก็ดีดบอลจากการเปิดเข้ากลางของ แซม ฮัทชินสัน เข้าไป
แลมพาร์ด แสดงให้เห็นถึงความนิ่งของเขา ด้วยการซัดจุดโทษในการเจอกับทีมเก่า ทำให้เชลซีเก็บหนึ่งแต้มสำคัญได้ และนำห่างเป็น 4 แต้ม ในตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกในช่วงคริสต์มาส
แลมพาร์ด กดประตูที่ 20 ในฤดูกาลของเขาได้ ด้วยการสับไกยิงด้วยเท้าซ้ายจากระยะ 20 หลา เข้าไปเป็นประตูตีเสมอให้เชลซี หลังจากเอฟเวอร์ตันขึ้นนำไปก่อน ด้วยประตูที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศของหลุยส์ ซาฮา และช่วยให้ทีมก้าวไปสู่ตำแหน่งแชมป์
อีกหนึ่งประตูสุดสวยของ แลมพาร์ด ซึ่ง "บิ๊กฟิล" หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ผู้จัดการทีมในตอนนั้น ถึงกับยกให้ลูกชิพอย่างเหนือชั้นของเขาเป็น "หนึ่งในประตูที่ดีที่สุดที่ผมเคยเห็นมา"
إرسال تعليق